เป้าหมาย “หมดหนี้” มีไว้พุ่งชน
รวยของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนอาจต้องการเป็นสิบล้านหรือร้อยล้าน ดังนั้นมาเริ่มต้นเป้าหมายที่ถูกต้องกันก่อนว่าเท่าไรเรียกว่า “รวย” โดยแนวคิดหนึ่งที่ใช้ในการคำนวณเพื่อให้มีความร่ำรวย คือ มีเงินเก็บจำนวน 25 เท่าของรายจ่ายต่อปี เช่น รายจ่าย 100,000 บาทต่อปี ก็ต้องมีเงิน 2,500,000 บาท เพื่อนำไปลงทุนแล้วเอาดอกผลมากินอยู่ใช้จ่าย โดยสมมติว่ามีเงินจำนวน 2,500,000 บาท เมื่อนำไปลงทุนได้ดอกเบี้ย 4% ต่อปี ก็จะได้รับดอกเบี้ยปีละ 100,000 บาท ก็นำส่วน 100,000 บาท ที่เป็นส่วนของดอกเบี้ยมากินใช้ ก็จะไม่กระทบกับเงินต้น และสามารถส่งต่อเงินที่มีไปยังลูกหลานได้
มาถึงตรงนี้หลายคนคงเกิดคำถามว่า แล้วจะหาเงินจำนวนเงินดังกล่าว มาจากที่ไหน หากจำนวนเงินเป้าหมายที่ต้องการ 2,500,000 บาท นั้นก็คือต้องออมเงิน ซึ่งสามารถทำได้หลายๆ วิธีการดังต่อไปนี้
1. ออมเงินปีละ 20,000 บาท ถ้าเก็บโดยไม่นำเงินไปลงทุนเลย (ผลตอบแทน 0%) จะต้องใช้ระยะเวลา 125 ปี
2. ออมเงินปีละ 20,000 บาท ถ้านำไปฝากประจำ ดอกเบี้ย 2% ต่อปี จะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 64 ปี
3. ออมเงินปีละ 20,000 บาท ถ้านำไปลงกองทุนตราสารหนี้ ที่คาดหวังผลตอบแทนทบต้น 4% จะใช้ระยะเวลา 46 ปี
4. ออมเงินปีละ 20,000 บาท ถ้านำไปลงกองทุนรวมหุ้น ที่คาดหวังผลตอบแทนทบต้น 8% จะใช้ระยะเวลา 32 ปี
ในที่นี้ความรู้หนึ่งที่ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนมากที่สุด คือ ดอกเบี้ย ถ้าเพียงแต่เข้าใจเรื่องของเครื่องมือและผลตอบแทน ด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันจากที่ต้องใช้ระยะเวลา 125 ปี ที่จะทำให้ถึงเป้าหมาย เหลือเพียงระยะเวลา 32 ปี ถ้าเปรียบเด็กจบใหม่ที่เริ่มทำงานตอนอายุ 22 ปี ก็จะสามารถเป็นคนรวย ที่อายุ 60 ปี แล้วถ้าสมมติต้องการเป็นคนรวยก่อนอายุ 50 ปี ก็เพียงแค่ออมเงินเพิ่มขึ้นเป็น 30,000 บาทต่อปี และหาผลตอบแทนที่ระดับอย่างน้อย 8% ทบต้นต่อปี ก็จะสามารถมีความมั่นคงทางการเงิน มั่งคั่ง และเป็นคนที่ร่ำรวยได้
ถ้าคุณอยากเป็นคนรวย แต่ตอนนี้รายรับยังไม่เพียงพอรายจ่าย ยังหาเช้ากินค่ำ ก็ต้องหารายได้เพิ่ม เพื่อให้เพียงพอต่อรายจ่ายต่อเดือน และเหลือเก็บออม เพื่อนำไปลงทุนต่อยอด ซึ่งตลอดระยะเวลาในการสร้างความร่ำรวย ต้องอาศัยความพยายาม มีความรับผิดชอบ วินัยและความรู้ทางการเงิน เพื่อที่จะได้เป็นคนรวยรุ่นแรก และคนจนรุ่นสุดท้าย
บทความโดย คลินิกแก้หนี้ by SAM