ความสำคัญของการไปศาลหากโดนฟ้อง
ไม่มีใครไม่รู้จักคำว่าหนี้ การมีหนี้อาจไม่ใช่เรื่องแย่ที่สุดของชีวิต หากรู้จักการจัดการที่ดีพอ ทุกปัญหามีทางออกเสมอ แม้กระทั่งการถูกฟ้องก็เช่นเดียวกัน ลูกหนี้อาจตกใจได้เมื่อได้รับหมายศาล แต่ต้องตั้งสติและให้ความสำคัญของการไปขึ้นศาลเมื่อถูกฟ้องคดี
การไปศาลเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานเพื่อให้ประชาชนมีพื้นที่ปลอดภัยที่จะต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมให้กับตัวเอง และเป็นการแสดงเจตนาว่า เราขอชี้แจงเหตุผลที่ไม่สามารถชำระหนี้ตามข้อเสนอของเจ้าหนี้ได้ ซึ่งศาลจะช่วยพิจารณาตามเหตุผลความจำเป็น ซึ่งจะง่ายขึ้น หากลูกหนี้มีแนวทางในการแก้ไขหนี้ อยู่บ้าง ก็สามารถทำให้การเจรจาต่อรอง การชำระหนี้ในชั้นศาลมีข้อยุติได้เร็วขึ้น จะทำให้ได้ลดค่าธรรมเนียมลงบ้าง ในทางตรงข้าม หากลูกหนี้ไม่ไปศาล เท่ากับเสียสิทธิในการเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ ผลคือ ศาลต้องมีคำสั่งพิพากษาฝ่ายเดียว ตามคำฟ้องของเจ้าหนี้
การไปศาลควรไปตามกำหนดนัดในคำฟ้อง และควรไปก่อนเวลานัด 1 ชั่วโมง เพื่อมีเวลาตรวจสอบและเตรียมเอกสารให้เรียบร้อย เช่น บัตรประชาชน หากจำเป็นต้องตั้งตัวแทน ต้องมีมอบอำนาจอย่างถูกต้องตามกฎหมายน ต้องเตรียมข้อมูล คำอธิบายเหตุผลความจำเป็นต่าง ๆ ที่ทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ อาทิ รายได้ลด รายจ่ายเพิ่ม มีภาระต้องดูแลครอบครัวอย่างไรบ้าง และสิ่งที่สำคัญควรเตรียมแนวทางการแก้ไขหนี้ แต่หากยังไม่มีแนวทาง ก็สามารถขอเลื่อนนัดต่อศาลออกไป ส่วนจะเลื่อนออกไประยะเวลาเท่าใด จะขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล
ระยะเวลาที่เลื่อนออกไป คือระยะเวลาที่นับถอยหลังในการหาทางแก้ไขหนี้ แม้บางศาลจะให้โอกาสในการเลื่อนนัดพิจารณาคดี ได้มากกว่า 1 ครั้ง แต่ลูกหนี้ต้องให้ความสำคัญในเวลาที่ได้รับ เพราะหากไม่มีแนวทางในการเจรจาแก้ไขกับเจ้าหนี้เลย ย่อมมีโอกาสถูกพิพากษาตามกฏหมาย ก็จะยิ่งทำให้การแก้ไขหนี้ยากขึ้นไปอีก
แต่ทั้งนี้หากได้ใช้ควาพยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว และไม่มีแนวทางแก้ไขหนี้จริงๆ ก็ขอให้ยอมรับคำพิพากษาอย่างมีสติ มีกำลังใจดำเนินชีวิตต่อไป เร่งสร้างโอกาสในการแก้ไขปัญหา และต้องแก้ได้แน่นอน หากไม่ถอดใจ
ที่มา : https://www.bot.or.th/Thai/ResearchAndPublications/articles/Pages/Article_13May2021-2.aspx
คลินิกแก้หนี้