“หนี้เสีย” หรือหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน (NPL : Non-performing Loan)
-ขอเจรจากับเจ้าหนี้ คนที่ต้องการจะประนอมหนี้สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ติดต่อเจ้าหนี้ เพื่อขอเข้าพบและสอบถามวิธีเจรจาประนอมหนี้ สำหรับคนที่เป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้ผ่อนบ้าน หนี้ผ่อนรถกับธนาคาร ให้ติดต่อกับธนาคารที่กู้สินเชื่อ โดยระบุไปเลยว่าจะขอทำการประนอมหนี้ เพราะหนี้เสียทำให้ชีวิตมีแต่เสีย ทั้งเสียความน่าเชื่อถือ เสียโอกาสการกู้เงิน และที่สำคัญเสียดอกเบี้ยบานเบอะ ซึ่งวิธีสกัดการเป็นหนี้เสียที่ดีที่สุด คือ ไม่สร้างหนี้เกินตัวจนไม่สามารถชำระหนี้ได้ พร้อมทั้งต้องวางแผนบริหารจัดการทางการเงินให้ดี ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อรู้ถึงสถานะทางการเงิน ///-////---
จ่ายหนี้ไม่ไหวทำยังไงดี ?
-ขอเจรจากับเจ้าหนี้ คนที่ต้องการจะประนอมหนี้สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ติดต่อเจ้าหนี้ เพื่อขอเข้าพบและสอบถามวิธีเจรจาประนอมหนี้ สำหรับคนที่เป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้ผ่อนบ้าน หนี้ผ่อนรถกับธนาคาร ให้ติดต่อกับธนาคารที่กู้สินเชื่อ โดยระบุไปเลยว่าจะขอทำการประนอมหนี้ -เตรียมเอกสารให้พร้อม ในการประนอมหนี้ ต้องมีการวางแผนชำระหนี้ใหม่ โดยใช้เอกสารในการยืนยันแผนการชำระหนี้ใหม่ด้วย ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้ก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละสถาบันการเงิน ดังนั้นต้องสอบถามเอกสารที่จะต้องใช้ว่ามีเอกสารอะไรบ้าง เพื่อความสะดวกรวดเร็ว -วางแผนชำระหนี้ แผนชำระหนี้ คือ กำหนดการชำระหนี้ ที่นำเข้าไปปรึกษากับทางธนาคารในตอนที่เข้าไปขอประนอมหนี้ ซึ่งในส่วนของแผนชำระหนี้ ต้องมีการระบุว่าจะเปลี่ยนจำนวนการชำระหนี้ต่อเดือนเท่าไหร่? จะขอยืดระยะการชำระหนี้ไปอีกกี่ปี ซึ่งต้องวางแผนตามความสามารถจริงที่สามารถจ่ายได้ เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้ในระหว่างการประนอมหนี้อีกอาจทำให้เราเจรจาอีกครั้งได้ลำบาก และอาจเสียค่าธรรมเนียมผิดนัดชำระหนี้ด้วย ///-////---
5 เรื่องกฎหมายหนี้สินที่ต้องรู้
คดีที่เกี่ยวกับหนี้สิน เช่น หนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ถือว่าเป็นคดีแพ่ง จะไม่มีโทษ “จำคุก” เหมือนกับคดีอาญา ซึ่งโทษสูงสุด คือ ถูกตัดสินให้ล้มละลาย เมื่อเรื่องถึงศาล ดอกเบี้ยจะหยุดลงทันที โจทก์หรือเจ้าหนี้จะคิดดอกเบี้ยต่อไปไม่ได้ เมื่อมีหมายศาลมาที่บ้าน หากไม่ไปศาล ศาลจะตัดสิทธิ์แก่จำเลย โดยยกผลประโยชน์ให้แก่โจทย์ทันทีเนื่องจากเหตุผลที่ว่าเพิกเฉยต่อศาล หากยังไม่มีทนาย ไม่มีคำให้การ สามารถขอเลื่อนการพิจารณาไปอีกได้ ถ้ามีเหตุผลเพียงพอ ถ้าไม่สามารถไปตามวันนัดของศาลได้ สามารถขอเลื่อนการพิจารณาออกไปได้หากมีเหตุผลจำเป็น ///-////---
12 เรื่องต้องรู้!! ก่อนตัดสินใจเซ็นสัญญาและอยู่ในฐานะ “ผู้ค้ำประกัน”
รวมถึงสิทธิของผู้ค้ำประกันที่ควรจะได้รับและไม่ให้ผลของการค้ำประกันมาเป็นหนี้ที่เกิดกับตัวผู้ค้ำประกันเองได้ในอนาคต ///-////---
เปิดคัมภีร์บริหารหนี้ ฉบับ “คลินิกแก้หนี้ by SAM”
สำหรับคนที่เริ่มมีปัญหาทางการเงินชักหน้าไม่ถึงหลัง ผ่อนจ่ายขั้นต่ำวนไป เรียกว่ากำลังพาหนี้ดิ่งเหวและรู้สึกเฟลกับการจัดการหนี้ มารู้จักกับ 4 คำนี้ แล้วชีวิตจะดี๊ดีทันตาเห็น “รู้ รับ ปรับ แก้” ///-////---
ทำไมต้องขอยืดและขยายเวลาในการชำระหนี้
เวลาไหน เมื่อไหร่ ที่เราควรยื่น “ขอปรับโครงสร้างหนี้” หรืออธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ คือ การยื่นเรื่องเพื่อขอยืดและขยายเวลาในการชำระหนี้จากเจ้าหนี้ มาอ่านและลองวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเงินของตัวเองกัน ///-////---
5 ขั้นตอนง่าย ๆ “รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต”
การ “รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต” เป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยให้เราสามารถชำระหนี้ได้ เพราะเป็นการโอนย้ายเจ้าหนี้เพื่อให้เราจัดการกับหนี้ได้ง่ายขึ้น จากเดิมที่อาจมีหนี้หลายก้อน หลายราย ดอกเบี้ยมากน้อยไม่เท่ากัน ซึ่งการโอนย้ายหนี้ให้รวมเป็นก้อนเดียวแล้วกู้เงินจากแหล่งเงินทุนใหม่ที่เสนออัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่าหรือถูกกว่าเพื่อนำเงินที่ได้ไปปิดหนี้ก้อนเก่าที่ดอกเบี้ยแพง ช่วยให้เราสามารถจัดการหนี้ที่มีได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันมีธนาคารหรือสถาบันการเงินหลายแห่งเปิดให้มีการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ///-////---
“หนี้ดี” คืออะไร ? “หนี้พึงระวังหรือหนี้ที่ไม่ก่อประโยชน์” คืออะไร ?
ก่อนที่จะเป็น “หนี้” เราต้องรู้เรื่อง “หนี้” ให้ท่องแท้และเข้าใจ “หนี้ดี” คืออะไร ? “หนี้พึงระวังหรือหนี้ที่ไม่ก่อประโยชน์” คืออะไร ? ประเภทของหนี้ดี 1.หนี้เพื่อการศึกษา : เป็นการลงทุนกับตัวเราเอง การที่เรามีการศึกษาที่สูงขึ้นทำให้ยิ่งมีโอกาสที่จะมีอาชีพการงานที่สูงขึ้น หน้าที่การงานที่สูงขึ้นนำมาซึ่งรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น และยังมีโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่ม จากความสามารถที่เรามีในด้านอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย 2.หนี้เพื่อความมั่นคงระยะยาว : ส่วนใหญ่จะเป็นหนี้เพื่อการลงทุน ในกรณีที่เรามีบ้านอยู่อาศัยอยู่แล้ว การมองหาสินทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์ ที่มีที่ตั้งและสภาพแวดล้อมที่ดี เพื่อทำการปล่อยเช่า หรือขายต่อ จะสามารถสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง เนื่องจากหนี้ประเภทนี้จะมีมูลค่าสูงขึ้นในอนาคต จึงมีความคุ้มค่าในการเป็นหนี้ 3.หนี้เพื่อการประกอบอาชีพ : เป็นหนี้จากการกู้เงินมาเพื่อการประกอบอาชีพ เช่น การกู้สินเชื่อรถยนต์เพื่อรับจ้างขนสินค้า และสามารถหารายได้เสริมได้ ทั้งนี้ทุก ๆ การก่อหนี้ ภาระที่จะต้องผ่อนชำระต้องไม่เกิน 1 ใน 3
ตำรารวยแบบไร้หนี้
-คัดเลือกค่าใช้จ่ายที่จำเป็น และไม่จำเป็นแยกออกจากกัน เพื่อให้ควบคุมรายจ่ายในอนาคตได้ นอกจากนี้การจดบันทึกยังเป็นเครื่องมือตรวจสอบการใช้จ่ายเงินแต่ละครั้งด้วย -เรียนรู้และรู้จักทำความเข้าใจเกี่ยวกับความต้องการของตัวเองว่ามีความต้องการอะไรบ้าง มากน้อยเพียงใด จัดเรียงลำดับความจำเป็นมากที่สุดถึงน้อยที่สุดออกมาเพื่อหาสิ่งที่ไม่จำเป็นในการใช้จ่ายเงินในช่วงนี้ ซึ่งจะช่วยให้คุณเป็นหนี้ทีละอย่างและเป็นหนี้ที่มีความจำเป็นมากที่สุด โดยไม่เป็นหนี้พร้อม ๆ กัน เพราะจะทำให้คุณเป็นหนี้ไปเรื่อย ๆ จนไม่สามารถหาเงินมาชำระได้หมด -เริ่มต้นด้วยการกำหนดอัตราส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ ว่าคุณวางแผนทำอะไรบ้าง จำนวนเท่าไหร่บ้าง ในแต่ละเดือน อย่างเช่น เงินออมและเงินลงทุน 30%, เงินที่จำเป็นต้องใช้ 40% และเงินที่ใช้หนี้รวมกับค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นอีก 30% -มีสติทุกครั้งที่ใช้จ่ายเงิน ไม่ควรจ่ายเงินไปตามความต้องการของตนเองเพียงอย่างเดียว ทุกครั้งที่มีค่าใช้จ่ายหรือว่าต้องการซื้อสิ่งใด ควรคิดทบทวนประโยชน์ที่ซื้อมาและจำนวนเงินว่าของที่คุณซื้อคุ้มค่าหรือไม่ -การสร้างเงินแบบต่อยอดและต่อเนื่อง ด้วยการลงทุนใน หุ้น หุ้นกู้ กองทุนรวม พันธบัตร หรือการลงทุนที่คุณสามารถจัดพอร์ตได้ จะทำให้จำนวนเงินของคุณเพิ่มมากขึ้น เราขอแนะนำให้คุณลงทุนในกองทุนรวมเพราะมีผู้จัดการกองทุนที่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแล และสามารถลงทุนได้ทุกตัว ทุกกองที่สนใจ แม้มีเงินไม่มากก็สามารถลงทุนได้ มีความเสี่ยงน้อยแถมได้เงินปันผลอีกด้วย ///-////---