วางแผนการเงินฉบับพนักงานประจำ
การวางแผนการเงินเป็นเรื่องสำคัญ ที่ไม่ว่าช่วงวัยไหนก็ควรให้ความสำคัญ ยิ่งเมื่อเราเริ่มทำงานมีรายได้ในบทความนี้จะมาแนะนำว่าเรื่องใดบ้างที่ควรให้ความสำคัญในการวางแผนการเงินแบบฉบับพนักงานประจำ 1.การบริหารเงินเดือน การบริหารจัดการเงินเดือนให้เพียงพอใช้ในแต่ะเดือนถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะคนส่วนใหญ่มักจะพึ่งรายได้จากงานประจำ แต่ส่วนน้อยที่จะหางานเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ ดังนั้นการบริหารจัดการเงินเดือนจึงเป็นเรื่องสำคัญเนื่องจากหากใช้แบบไม่บริหารจัดการในแต่ละเดือนอาจไม่พอใช้จ่ายและทำให้ต้องไปก่อหนี้ใหม่เพื่อมาใช้ในชีวิตประจำวัน 2.ภาษี สำหรับมนุษย์เงินเดือนหรือผู้ที่มีรายได้ เรื่องภาษีเป็นเรื่องที่สำคัญที่ควรรู้ เพราะหากไม่ใส่ใจและโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังได้ นอกจากนี้แล้วยังควรรู้วิธีการในการคำนวณ เพื่อให้เราสามารถวางแผนในการลดหย่อนภาษีจะทำให้เราช่วยประหยัดเงินในส่วนนี้ไปได้มาก 3.การจัดการหนี้ การเป็นหนี้ไม่ได้แย่ แต่ต้องรู้จักวิธีบริหารจัดการ และการจ่ายหนี้ต่อเดือนไม่ควรเกิน 1 ใน 3 ของรายได้ ก่อนก่อหนี้ควรศึกษาเงื่อนไขของการกู้นั้นๆ ศึกษาข้อมูลการคิดดอกเบี้ย ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่พนักงานควรรู้เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นมา ปัญหาหนี้จะทำให้ไม่มีสมาธิและประสิทธิภาพในการทำงานลดลง 4.สวัสดิการในการรักษาพยาบาล สิ่งที่เราควรรู้อีกเรื่องเลยนั้นก็คือสวัสดิการในการรักษากรณีที่เราเข้าโรงพยาบาล เพราะเหตุการที่ไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอด เราจึงต้องทราบว่าเรามีสวัสดิการในส่วนนี้อย่างไรบ้าง แล้วเราควรเพิ่มความคุ้มครองในการรักษาตรงนี้อย่างไรบ้างเพื่อไม่ให้กระทบกับสภาพคล่องทางการเงินหากเกิดต้องรักษาพยาบาลจริงๆ ที่มา: https://moneyclass.co/วันที่สืบค้น 13 กค.66
ความแตกต่างระหว่างข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่ง
ข้อมูลเครดิต ข้อมูลเครดิต คือข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการชำระหนี้ของลูกค้า ซึ่งถูกจัดเก็บไว้ในระบบฐานข้อมูลของบริษัทข้อมูลเครดิต และจะปรากฎในรายงานข้อมูลเครดิตเมื่อมีผู้ขอเรียกดู โดยมีระยะเวลาในการเก็บข้อมูล 3 ปี ข้อมูลเครดิตจะประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงตัวตนลูกค้าเช่น ชื่อ ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด สถานภาพการสมรส อาชีพ เลขที่บัตรประชาชน และกรณีที่เป็นนิติบุคคล จะเป็น ชื่อ สถานที่ตั้ง เลขที่ทะเบียนนิติบุคคล และข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ และประวัติการชำระสินเชื่อ ประวัติการชำระราคาสินค้าหรือบริการโดยบัตรเครดิต รวมทั้งสถานะบัญชี รายงานข้อมูลเครดิตมีสำคัญ ที่แสดงในเรื่องของการแสดงประวัติการชำระหนี้ที่สะท้อนถึงพฤติกรรม และวินัยทางการเงิน และประวัติการชำระหนี้ที่ตรงต่อเวลา เพิ่มความน่าเชื่อถือในการยื่นขอสินเชื่อต่อสถาบันการเงิน เครดิตสกอริ่ง เครดิตสกอริ่ง หรือคะแนนเครดิต คือ เครื่องหมายหรือตัวเลขที่เป็นผลรวมจากการประเมินทางสถิติของลูกค้า มีโอกาสที่จะไม่ผิดนัดชำระหนี้ที่ก่อไว้ อันเป็นผลมาจากประวัติการก่อหนี้ และการชำระหนี้ของตนเองในอดีตที่ผ่านมา
7 วิธีสร้างความสุขกับการดูแลตัวเอง
ลดความไม่มั่นใจ การรู้สึกไม่มั่นใจไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะทุกคนล้วนมีเรื่องไม่มั่นใจ ลองสำรวจดูว่าเราไม่มั่นใจในเรื่องอะไร แล้วสรุปรายการ และตรวจสอบดูว่าเราสามารถแก้ไขได้ไหม เพราะจริงๆไม่มีใครสมบูรณ์แบบ จะได้ไม่คิดมากจนเกินไป พูด ขอบคุณ เสมอ คือกุญแจสำคัญของความสุข จะช่วยให้เราตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่มากกว่าจะไปหมกหมุ่นถึงสิ่งที่ขาดและอยากได้มา ลองมองดูสิ่งที่เรามีอยู่ตอนนี้สิ แม้นาฬิกาที่สวมจะคู่เก่าไปบ้าง แต่อย่างน้อยมันก็บอกเวลาได้ตรงเสมอ ในทุกๆ วัน ทำให้ไม่พลาดเวลาที่สำคัญ เรียนรู้ที่จะยอมรับคำขอโทษ ไม่มีใครไม่เคยพลาดพลั้ง หากเพื่อนหรือคนสำคัญเดินเข้ามาขอโทษอย่างจริงใจ เพราะพวกเขาทำบางอย่างลงไป จงยกโทษและให้อภัย รู้สึกหัวใจกำลังพองโต เพราะการให้อภัยเป็นคุณลักษณะของคนเข้มแข็ง ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ กินอาหารอร่อยแต่ไม่ดีต่อสุขภาพ ร่างกายก็ย่ำแย่ พอร่างแย่ ใจก็ไม่เบิกบาน ลองหันมาทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลดหวาน ลดมัน ลดรสจัด ทานผักและผลไม้ โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตอย่างพอดี จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้น ขับถ่ายสะดวก
6 เทคนิคเพื่อเพิ่มความสุขในชีวิตมากขึ้น
การควบคุมตารางเวลาของตัวเอง คนที่มีความสุขจะรู้สึกว่าชีวิต จะแบ่งเวลาออกเป็นส่วน ๆ โดยปฎิบัติตามเป้าหมายว่า วันนี้จะทำอะไรบ้าง เช้าทำอะไร เย็นทำอะไร แล้วก็ทำตามตารางที่วางแผนไว้ในแต่ละวัน จะรู้สึกว่า เราสามารถทำอะไร ๆ ได้มากมาย หลายอย่างและตามเป้าหมาย ทำตัวให้มีความสุข โดยการยิ้ม เราจะมีความรู้สึกมีความสุขมากขึ้น แต่ถ้าเราหน้าบึ้ง หน้างอ ก็จะรู้สึกว่าโลกนี้ไม่น่าอยู่เลย เพราะฉะนั้นอยากมีความสุขก็ให้ยิ้มเข้าไว้ การพักผ่อนให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญ คนที่มีความสุขนั้นนอกจากจะเป็นคนสดชื่นกระปรี่กระเปร่าแล้ว ถึงเวลาพักก็ต้องพักเต็มที่เพื่อเติมพลัง ถ้าเราพักผ่อนไม่เพียงพอก็จะรู้สึกอ่อนเพลีย เฉื่อยชาและอารมณ์เสียง่าย การให้ความสำคัญกับคนใกล้ชิด ด้วยการแสดงความรักให้อีกฝ่ายรับรู้ อย่าคิดว่าอยู่กันมานานรู้ใจกันอยู่แล้ว หมั่นแสดงน้ำใจต่อคนใกล้ชิดเหมือนที่แสดงความมีน้ำใจกับผู้อื่น ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกันและเติมความรักอยู่เสมอ ใส่ใจผู้อื่นให้มากกว่าตัวเอง มองข้ามความต้องการของตัวเองบ้าง แล้วดูว่าผู้อื่นต้องการอะไร ต้องการความช่วยเหลืออะไรจากเราหรือไม่ เพราะการทำความดีโดยการช่วยเหลือผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นมีความสุข ก็จะทำให้เรารู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ และมีความสุขตามด้วย
6 เคล็ดลับในการสร้างโอกาสการขอสินเชื่อแบบง่าย ๆ
การมีเครดิตดีทำอะไรก็ง่าย โดยเฉพาะเครดิตทางการเงิน ที่ยิ่งมีเครดิตดีมากเท่าไหร่ สุขภาพการเงินก็ดี และโอกาสในการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือการขอสินเชื่อเป็นไปได้ง่ายมากยิ่งขึ้น มาดูกันว่าถ้าอยากสร้างเครดิตให้ดีต้องทำอย่างไร มีเงินเข้า-ออกบัญชีอย่างประจำ สม่ำเสมอ เพื่อเป็นหลักฐานที่สถาบันการเงินสามารถตรวจสอบได้ ว่าใน แต่ละเดือนมีรายรับและรายจ่ายเท่าไหร่ เป็นการสร้างเครดิตทางการเงินที่ดีเบื้องต้นไปในตัวด้วย และยังมีวินัยในการวางแผนการเงินที่ดี เปิดบัญชีออมเงินไว้แยกต่างหากการเปิดบัญชีเงินฝากแยกไว้อีกส่วนไว้โดยเฉพาะ ซึ่งบัญชีนี้อาจจะเป็น เงินจำนวนหนึ่งที่มากกว่าฐานเงินเดือน จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในเรื่องของเครดิตทางการเงินได้ ลงทุน DCA อย่างต่อเนื่อง การ DCA หรือ Dollar-cost averaging เป็นการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยไม่ว่าจะเป็น กองทุน หรือหุ้น ในจำนวนเงินที่เท่า ๆ กันแต่ละเดือน ซึ่งการลงทุนรูปแบบนี้จะช่วยให้เห็นถึงวินัยทางการเงินเพราะเรามีการลงทุนอย่างเป็นประจำสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง ชำระหนี้ให้ตรงต่อเวลา การสร้างเครดิตทางการเงินที่ดี จะช่วยให้สถาบันการเงินเมองเห็นพฤติกรรมการใช้ จ่ายได้อย่างชัดเจนคือ ประวัติการชำระหนี้ได้ตรงเวลาหรือชำระก่อนครบกำหนด โดยเฉพาะผู้ที่มีบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล จะทำให้เห็นวินัยทางการเงินตรงนี้มากขึ้น โอกาสในการขอสินเชื่อผ่านก็จะง่ายขึ้น ตามเงื่อนไขที่สถาบันการเงินกำหนดไว้
วิธีรักษาเครดิตทางการเงิน
การรักษาเครดิตให้ดีนั้นส่งผลดีต่อการขอสินเชื่อในอนาคต ดังนั้นควรรักษาประวัติทางการเงินให้ดีอยู่เสมอ เพราะประวัติเหล่านี้จะสะท้อนถึงพฤติกรรมการชำระเงินของตัวเรา ซึ่งการรักษาสถานะให้ดีอยู่เสมอสามารถทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้ 1.ตรวจเครดิตบูโรอย่างสม่ำเสมอ หลายๆคนคงสงสัยว่าทำไมถึงต้องตรวจเครดิตบูโร รายงานเครดิตบูโรคือประวัติการผ่อนชำระทางการเงิน ซึ่งจะแสดงข้อมูลการทำธุรกรรมของเราทั้งหมด จะทำให้เราเห็นว่าเราใช้บัตรเครดิตเยอะเกินไปหรือเปล่า หรือกู้มากเกินไปหรือเปล่า ซึ่งรายงานเครดิตบูโรสามารถขอได้ที่สถาบันข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือช่องทางต่างๆที่มีบริการ 2.ชำระเงินตรงตามเวลา การชำระคืนควรจ่ายไม่เกินวันที่ครบกำหนด และชำระยอดให้ตรงตามจำนวนที่ใช้จ่ายในใบแจ้งหนี้ ไม่ควรจ่ายน้อยกว่าขั้นต่ำ ดีที่สุดคือการจ่ายมากกว่าขั้นต่ำหรือจ่ายเต็มจำนวน ซึ่งหากเราเป็นไปได้แนะนำให้ตัดบัญชีอัตโนมัติเพื่อป้องกันการลืม ซึ่งทำให้เกิดค่าใช้จ่ายจากการจ่ายล่าช้าตามมา 3.ยกเลิกสินเชื่อที่ไม่จำเป็น เมื่อเราตรวจเครดิตบูโรแล้วเราจะเห็นสินเชื่อที่เราเคยสมัครทุกบัญชี ซึ่งในบางครั้งเราจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยมี และอาจมาทราบที่หลังว่าบัญชีเหล่านี้มีค่าใช้จ่ายรายปี ซึ่งทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในภายหลังได้ และการยกเลิกสินเชื่อที่ไม่จำเป็น เป็นอีกวิธีที่จะป้องกันไม่ให้ใช้สินเชื่อเยอะเกินไปโดยไม่จำเป็น 4.ชำระหนี้ที่ยังค้างอยู่ การค้างชำระหนี้เป็นเวลานานทำให้เสียประวัติทางการเงิน ควรพยายามชำระหนี้ที่คงค้างอยู่เพื่อให้ธนาคารเห็นว่าเราไม่ได้ตั้งใจที่จะค้างชำระ หรือควรเข้าไปปรึกษากับธนาคารเพื่อแจ้งสาเหตุของการผิดนัดชำระ และหาทางออกเพื่อให้เราสามารถชำระหนี้คืนให้กับธนาคารได้ 5.การใช้สินเชื่อ/บัตรเครดิตอย่างมีสติ ทุกสินเชื่อย่อมมีเงื่อนไขแตกต่างกันไป ดังนั้นควรศึกษาเงื่อนไขก่อนใช้บริการทุกครั้ง และควรมีวินัยในการจ่ายเงินคืนเมื่อใช้บริการทางการเงิน เพราะผลิตภัณฑ์เหล่ามีหากใช้ให้เป็นก็จะเป็นประโยชน์ หากใช้ไม่เป็นก็จะกลายเป็นโทษ ที่มา : https://www.firstchoice.co.th/th/blog/financial-literacy/ImproveCreditScore.html
เคล็ดลับความสำเร็จของการเป็นหัวหน้างาน
ให้ความเป็นกันเองกับลูกน้องเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ทำงานเพื่อเป้าหมายร่วมกัน โดยมองพวกเขาอยู่ในระดับเดียวกับคุณ คิดว่าลูกน้องนั้นมีความสามารถ ฉลาด ทำอะไรได้ดี และมอบหมายงานที่ดี ทำให้พวกเขาเก่งขึ้นมาได้ จงรักษาเส้นแบ่งระหว่างหัวหน้ากับลูกน้องเอาไว้ให้ดีด้วย งดใช้คำพูดหยาบคายกับลูกน้อง หลายคนคงเคยทำงานกับเจ้านายสมัยเก่า ที่เน้นการใช้คำพูดง่ายๆ หรือสั่งงานคุณ พวกเขาจะรู้สึกว่าคุณไม่ให้เกียรติ หรือต่อหน้ายิ้มรับ แต่ในใจต่อว่าก็เป็นได้ ซึ่งดูแล้วไม่เป็นมืออาชีพ ออกหน้ารับแทนลูกน้องในกรณีที่เกิดความผิดพลาดจากการทำงาน การออกหน้ารับผิดแทนลูกน้อง และวางแผนแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด คุณก็จะได้ความเชื่อมั่นจากลูกน้อง และรู้สึกปลื้มใจ ซาบซึ้ง ที่คุณช่วยพวกเขาแก้ปัญหา หลังจากนั้นค่อยเรียกลูกน้องมาคุยเพื่อติเตียนและร่วมกันหาหนทางแก้ไขปัญหา ช่วยลูกน้องแก้ปัญหาอย่างเป็นธรรม จงเตรียมพร้อมและเปิดใจรับฟังปัญหาจากลูกน้องอย่างทั่วถึงเสมอ และเป็นธรรม โดยนำเสนอวิธีแก้ปัญหาอย่างจริงจัง จริงใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้รับการนับถือมากขึ้น แสดงการทำงานที่ถูกวิธีให้ลูกน้องเห็นเป็นตัวอย่าง งานหลายๆ
การปรับตัวเองเพื่อก้าวผ่านความทุกข์ยาก
เราสามารถที่จะเรียนรู้ในการช่วยเหลือตัวเองให้ก้าวข้ามผ่านออกจากความทุกข์ยากนั้น โดยการปรับวิธีคิดและวิธีการที่เราจะสามารถนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการเผชิญกับความทุกข์ยากที่เกิดขึ้น ทางจิตใจที่ทุกคนมีอยู่แต่อาจมีมากไม่เท่ากัน โดยการพัฒนาให้มีมากขึ้น ด้วยการปรับตัวเองดังต่อไปนี้ การปรับความคิด ยอมรับความจริงว่าความทุกข์ยาก เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราที่ต้องมีการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดอยู่ทุกหนแห่ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับ ความตาย การสูญเสียและ เหตุการณ์ร้ายแรง โดยเราสามารถ จัดการกับความคิดอัตโนมัติ เราควรปล่อยวางความคิดอัตโนมัติด้านลบเหล่านี้ โดยการฝึกสติสังเกตรับรู้ลมหายใจที่ปลายจมูก เพื่อให้มีสติจดจ่ออยู่กับลมหายใจของเรา ถ้าใจเผลอไปคิดเรื่องอื่นก็ดึงกลับมารับรู้ลมหายใจใหม่ หรือฝึกสติรับรู้ว่ากายกำลังทำอะไร วิ่ง ยืน เดิน นั่ง หกล้ม ทำไปเรื่อยๆไม่ว่าเราจะทำอะไรอยู่ จนรู้สึกว่าหลุดออกจากการหมกมุ่น ครุ่นคิดในเรื่องเดิมๆและรู้สึกผ่อนคลาย การฝึกดังกล่าวถือเป็นการฝึกกล้ามเนื้อแห่งการปล่อยวาง เพื่อช่วยให้เราหลุดออกจากวงจรของความคิดลบ การหมั่นฝึกฝนเป็นประจำจะช่วยให้เรามีทางเลือกในการออกจากความคิดลบได้ทุกขณะเมื่อเราต้องการ รวมถึงการมองโลกในแง่ดี จะช่วยให้เราจัดการกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้ดีขึ้น ช่วยลดผลกระทบของความเครียดต่อสุขภาพกาย ทำให้เรายอมรับความเป็นจริงได้เร็วขึ้น การปรับอารมณ์ พูดระบายความรู้สึกทุกข์ใจออกมา อย่าพยายามเก็บกด โดยเราหาใครสักคน เช่น เพื่อน
7 วิธีสร้างสติ ให้การงานก้าวหน้า
ทำสมาธิ ก่อนเริ่มงานทุกวัน สิ่งแรกที่ควรทำคือ หาเวลาสัก 5 นาทีเพื่อทำใจให้สงบ จากนั้นตั้งจิตให้มั่นแล้วนึกถึงธรรมะที่ต้องการน้อมมาปฏิบัติ เช่น วันนี้ต้องตั้งใจทำงานด้วยความเพียรและทำงานให้ดีเยี่ยมไม่ให้ผิดพลาด การตั้งจิตอธิษฐานไม่ได้หมายถึงการขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อช่วยให้ทำงานสำเร็จ แต่เป็นการเตือนใจหรือสติไม่ให้พลัดหลงไปตามอารมณ์ และความเร่งรีบ วุ่นวาย ที่จะมาบั่นทอนจิตใจการทำงานนั่นเอง มีสติตลอด เวลาทำงานคือทำงาน การทำงานไม่ว่าอาชีพไหนก็สามารถเจริญสติขณะทำงานได้เช่นกัน เพราะการเจริญสติในที่ทำงานหมายถึงการดึงจิตใจให้อยู่กับงาน รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของอวัยวะต่างๆ นั่งก็รู้ว่านั่ง ยืนก็รู้ว่ากำลังยืน คิดเรื่องอะไรก็ใช้สติอยู่กับเรื่องนั้นๆโดยไม่กังวลกับอดีตที่ผ่านมา หรือกังวลอยู่กับอนาคตที่ยังไม่ถึง ข้อดีของการเจริญสติตลอดเวลาที่ทำงานนั้น นอกจากจะทำให้งานสำเร็จแล้ว ยังทำให้ทำงานด้วยความผ่อนคลายโปร่งเบา เพราะจิตใจไม่เป็นขยะให้ต้องแบกรับ หรือการปล่อยวางได้ เปิดใจกว้างรับฟังคำวิจารณ์ การทำงานกับการวิพากษ์วิจารณ์เป็นสิ่งที่คู่กัน แต่หลายคนมักสติหลุดเพียงเพราะถูกวิพากวิจารณ์ ดังนั้นสิ่งที่ต้องท่องให้ขึ้นใจ คือ เราเอาปัญญาออกหน้า มักจะเกิดคำถามในใจว่าฉันผิดพลาดตรงไหน
6 เป้าหมายเพื่อการลงทุนเพื่อเพิ่มรายได้
ความปลอดภัยของเงินลงทุน การรักษาเงินทุนเริ่มแรกให้คงไว้ หรือการป้องกันความเสี่ยงซึ่งเกิดจากอำนาจซื้อที่ลดลงจากภาวะเงินเฟ้อ การลงทุนรูปแบนี้มีการกำหนดระยะเวลาคืนเงินต้นจำนวนแน่นอน เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ และหุ้นบุริมสิทธิที่มี กำหนดระยะเวลาไถ่ถอนของบริษัทที่มั่นคง เสถียรภาพของรายได้ ลงทุนในหลักทรัพย์ที่ให้ได้รายได้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เช่น ดอกเบี้ย เงินปันผล ส่วนต่างกำไร หุ้น ผู้ลงทุนสามารถทำแผนการใช้เงินทุนได้ว่าจะนำรายได้ไปใช้ เพื่อการบริโภคหรือเพื่อลงทุนใหม่ นอกจากนี้อัตราดอกเบี้ยหรือเงินปันผลที่ได้รับเป็นประจำย่อมมีค่า มากกว่าดอกเบี้ยหรือเงินปันผลที่เขาสัญญาว่าจะให้ในอนาคตซึ่งยังไม่แน่ว่าจะได้ตามที่สัญญาหรือไม่ ความงอกเงยของเงินลงทุน การนำรายได้ที่ได้รับไปลงทุนใหม่ก่อให้เกิดความงอกเงยของเงินทุน โดยผู้ลงทุนส่วนมากจะเพิ่มมูลค่าของเงินลงทุนของเขาโดยการนำดอกเบี้ยและเงินปันผลที่ได้รับไปลงทุนใหม่ ความงอกเงยของเงินทุนนี้ให้ประโยชน์แก่ผู้ลงทุนในด้านการเงินเพื่อปรับฐานะผู้ลงทุน ในระยะยาวให้ดีขึ้น รักษาอำนาจซื้อให้คงไว้และให้การจัดการคล่องตัวดีขึ้น ความคล่องตัวในการซื้อขาย สามารถซื้อหรือขายได้ง่ายและรวดเร็ว ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับราคาขนาดของตลาดหลักทรัพย์ที่หุ้นนั้นจดทะเบียน ขนาดของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ จำนวนผู้ถือหุ้น และความสนใจที่ประชาชนทั่วไปมีต่อหุ้น โดยหุ้นที่มีราคาสูงมักจะขายได้ยากกว่าหุ้นที่มีราคาต่ำกว่า หุ้นของบริษัทใหญ่จำหน่ายได้ยากกว่าหุ้นของบริษัทเล็ก ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทใหญ่มีหุ้นออกจำหน่ายจำนวนมาก ทำให้การซื้อขายดำเนินการต่อเนื่องกันตลอดเวลา